ถุงมือกันบาด

ถุงมือกันบาด ระดับ 5 9" รุ่น 9101 YAMADA

Cut resistance glove level 5 9” mod. 9101 YAMADA

คุณสมบัติ ถุงมือกันบาด

• ถุงมือกันบาด ผลิตจากเส้นใยชนิดพิเศษ HPPE ป้องกันการบาดได้สูง

• ทอแบบไร้ตะเข็บเย็บ 13 เข็ม สวมใส่สบาย กระชับ ระบายอากาศได้ดี

• ทนต่อการขีดข่วน เสียดสี แรงฉีกขาดได้ดี

• ถุงมือกันบาด เคลือบยาง PU บริเวณฝ่ามือและนิ้วมือโดยจะไม่ เคลือบหลังฝ่ามือ เพื่อป้องกันการลื่น การตัด การเสียดสีและ หยิบชิ้นงานได้อย่างสะดวกปลอดภัย

• Made of polyethylene (HPPE) fiber with PU coated provides highest level of cut resistance.

• 13-gauge high performance comfortable to wear and good ventilation.

• Excellent for puncture or cut resistance.

• Grey polyurethane (PU) coating on palm and fingertips gives an anti-slip, cutting, abrasion and catch a workpiece easily.

ถุงมือกันบาด เหมาะสำหรับ

• ถุงมือกันบาด สำหรับงานที่สัมผัสของมีคม

• ป้องกันการบาดเฉือน ทนต่อการเสียดสี

• เคลือบพียูป้องกันการลื่น

• งานก่อสร้างหรืองานที่สัมผัสของมีคม เช่น งานอลูมิเนียม กระจก เหล็ก สเตนเลส

เส้นใย HPPE (High-Performance Polyethylene)

เป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความทนทานและความแข็งแรงสูง ซึ่งทำให้มีความสามารถในการกันบาดได้ดีมาก

เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เส้นใย HPPE กันบาดได้:

• โครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง:
  เส้นใย HPPE ประกอบด้วยโพลิเอทิลีนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่งมีความแข็งแรงทางกลและความทนทานที่สูงมาก
  โครงสร้างของเส้นใยมีการเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบและมีพันธะเคมีที่แข็งแรง ทำให้ทนต่อแรงดึงและแรงบิดได้ดี
• ความเหนียว (Toughness):
  เส้นใย HPPE มีความเหนียวสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถดูดซับพลังงานจากการกระแทกหรือแรงที่มากระทำได้ดี โดยไม่เกิดการแตกหักง่าย
• น้ำหนักเบา:
  แม้จะมีความแข็งแรงสูง แต่เส้นใย HPPE มีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบที่ต้องการน้ำหนักเบา
• ทนต่อการเสียดสี:
  เส้นใย HPPE มีความสามารถในการทนต่อการเสียดสีและการขัดถูได้ดีมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันการบาด
• ทนต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อม:
  เส้นใย HPPE มีความทนทานต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น การโดนสารกัดกร่อนหรือการใช้งานในอุณหภูมิที่หลากหลาย
• การประยุกต์ใช้งาน:
  เส้นใย HPPE มักถูกใช้ในอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือกันบาด เสื้อเกราะกันกระสุน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เนื่องจากความสามารถในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม
• สรุปได้ว่า เส้นใย HPPE มีความสามารถในการกันบาดได้ดีเนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง ความเหนียว น้ำหนักเบา และความทนทานต่อการเสียดสีและสารเคมี ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการการป้องกันสูง

วิธีใช้ ถุงมือกันบาด (HOW TO USE)

• ถุงมือกันบาด ใช้สวมใส่มือเพื่อป้องกันการบาดเฉือนหรือสิ่งของมีคม

• Use for prevent against cutting or sharp objects.

การดูแลรักษา

• สามารถซักได้ด้วยน้ำอุ่น อุณหภูมิไม่เกิน 40°C
• ไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินกว่า 10 นาที
• สามารถล้างในน้ำเย็น และปั่นแห้งได้
• Can be washed with warm water. Temperature not exceeding 40°C
• Should not be soaked in water for more than 10 minutes.
• Wash in cold water and tumble dry.

ข้อแนะนำสำหรับการใช้งาน ถุงมือกันบาด (SUGGESTION)

• ไม่ใช้ ถุงมือกันบาด ที่ชำรุด ฉีกขาด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน

• เพื่อความปลอดภัยควรเลือก ให้เหมาะสมกับลักษณะและขนาดมือ

• ถุงมือกันบาด ใช้สำหรับป้องกันการตัด บาด เสียดสีจากของมีคมเท่านั้น ห้ามใช้เพื่อป้องกันการฟันแทงจากการต่อสู้

• Make sure that gloves are not defective and available to use.

• Wear gloves that match job fit properly.

• Use for protect your hands from cuts, lacerations, and abrasions.They are not intended to provide stick or stab protection.

EN 388: 2003 เป็นมาตรฐานแบบเก่า ซึ่งจะประกอบไปด้วยรหัสตัวเลข 4 หลัก ถุงมือจะถูกประเมินตาม 4 หัวข้อ

• ความทนต่อการขัดถู (Abrasion Resistance) 0–4
• ความต้านทานต่อการตัด (Cut Resistance – Coup Test) 0–5
• ความทนต่อแรงดึง/ฉีกขาด (Tear Resistance) 0–4
• ความทนต่อแรงเจาะ (Puncture Resistance) 0–4

EN388: 2016 เพิ่มการทดสอบและเปลี่ยนแปลงบางส่วนเพื่อความแม่นยำมากขึ้น โดยเพิ่มรหัสจาก 4 หลัก เป็น 6 หลัก ประกอบด้วยมาตรฐานการทดสอบ 4 ประเภทเดิม และได้เพิ่มการทดสอบอีก 2 ประเภท ได้แก่

• การทดสอบต้านการตัดแบบ ISO (TDM Test) A–F (ใหม่)
• การป้องกันแรงกระแทกที่ข้อนิ้ว (Impact Protection) P หรือไม่มี (ใหม่)
  
  

หมายเหตุ: หากวัสดุถุงมือทำให้ใบมีดใน Coup Test ทื่อเร็ว จะไม่ใช้คะแนน Coup Test แต่จะใช้ TDM Test (ISO 13997) แทน โดยวัดแรงที่ต้องใช้ในการตัดผ่านวัสดุและให้คะแนน A–F 
ตัวอย่างคะแนน (EN388:2016): EN388: 3X43D)X = ไม่มีผลคะแนนจาก Coup TestD = ได้ผลคะแนนจาก TDM Test (ระดับกลาง-สูง)

ระดับ 5 เดิม ตามมาตรฐานใหม่จะอยู่ที่ประมาณ ระดับ C ถึง E แล้วแต่ชนิดของวัสดุและวิธีทดสอบ ถ้าเป็นถุงมือทั่วไปอยู่ที่ C/D แต่ถ้าใช้วัสดุทนแรงสูงมาก อาจได้ถึง E หรือ F (Understanding Cut Levels EN388: 2016 Vs EN388:2003. (2022, November). Workmate workplace solutions. Retrieved from https://www.workmate.in/blog/understanding-the-en388-2016-standards-based-cut-levels-vs-old-en3882003)

สาเหตุที่ค่าระดับตัด (Cut Level) ไม่ตรงกันระหว่างแหล่ง

• มาตรฐานใหม่ใช้วิธีการทดสอบคนละแบบ  - EN388:2003 ใช้ Coup Test (การหมุนของใบมีด)  - EN388:2016 เพิ่ม TDM Test (ISO 13997) วัดแรงตัดเป็น "นิวตัน"
• วัสดุบางประเภท (เช่น HPPE หรือเหล็กกล้า) จะทำให้ใบมีดทื่อเร็ว ส่งผลให้คะแนนจาก Coup Test ไม่แม่นยำ ทำให้ต้องใช้ TDM Test แทน
• แหล่งข้อมูลแต่ละแห่งใช้เกณฑ์ แรงตัดเฉลี่ยที่แตกต่างกัน  - ตัวเลขเชิงทฤษฎีอาจบอกว่า Level 5 = ≥ 20 นิวตัน ซึ่งเทียบกับ C หรือ D  - แต่บางถุงมือเกรดอุตสาหกรรมหนัก อาจถึง ≥ 30 นิวตัน (Level F)