ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมักเริ่มต้นจากการเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน หากคุณสังเกตที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที เครื่องมือช่างมีสาย และเครื่องมือช่างไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่ คุณจะพบสัญลักษณ์ มอก. รูปทรงคล้ายสมอเรือปรากฏอยู่บนฉลากสินค้า
ทุกคนรู้ดีว่ามันคือ เครื่องหมาย มอก. แต่คนจำนวนมากยังคงมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของ มอก. บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว มอก คืออะไร มีกี่ประเภท และเหตุใดการละเลยเครื่องหมายนี้เพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงต่อผู้ใช้งานได้

มอก คืออะไร?
มอก. ย่อมาจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Thai Industrial Standard) หมายถึงข้อกำหนดทางวิชาการที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ได้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ข้อกำหนดเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการทดสอบประสิทธิภาพ การนำไปใช้งาน และความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ออกสู่ท้องตลาดนั้นมีความเหมาะสมกับการใช้งานและไม่ก่อให้เกิดอันตราย
กล่าวคือ มาตรฐาน มอก. คือ บรรทัดฐานในทางกฎหมายและทางปฏิบัติ ที่ใช้ชี้วัดว่าสินค้านั้นสอบผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่รัฐกำหนดไว้หรือไม่ มาตรฐานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ แต่เกิดจากการระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย ทั้งตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรม ผู้บริโภค และนักวิชาการ เพื่อกำหนดเกณฑ์ที่สมดุลระหว่างต้นทุนการผลิตและความปลอดภัยของผู้บริโภค
การกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าพื้นฐานอย่างตะปู ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ไปจนถึงสินค้าที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสูงอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ การมีอยู่ของมาตรฐานนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้สินค้าด้อยคุณภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร เพลิงไหม้ หรือโครงสร้างอาคารวิบัติ
เครื่องหมาย มอก. บอกอะไร?
ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมองหาแค่โลโก้รูปสมอเรือแล้วตัดสินใจซื้อทันที แต่ความจริงแล้ว เครื่องหมาย มอก. มีรายละเอียดซ่อนอยู่ที่บ่งบอกถึงประเภทและขอบเขตของการรับรอง หากคุณอ่านสัญลักษณ์เหล่านี้เป็น คุณจะทราบทันทีว่าสินค้านั้นได้รับการรับรองในเรื่องใด โดยทั่วไปแล้วองค์ประกอบที่ปรากฏคู่กับเครื่องหมายจะมีดังนี้
ส่วนแรกคือตราสัญลักษณ์ มอก. ที่เป็นรูปสมอเรือ ซึ่งเป็นจุดสังเกตหลัก ส่วนที่สองคือข้อความที่ระบุว่า “มอก.” ตามด้วยเลขรหัสมาตรฐาน ตัวอย่างเช่น “มอก. 2432-2555” ชุดตัวเลขนี้มีความหมายสำคัญ ตัวเลขชุดแรก (เช่น 2432) คือลำดับที่ของมาตรฐานที่ระบุประเภทของสินค้า ส่วนตัวเลขชุดหลัง (เช่น 2555) คือปี พ.ศ. ที่มาตรฐานนั้นถูกประกาศใช้หรือปรับปรุงล่าสุด ข้อมูลส่วนนี้ช่วยให้ตรวจสอบได้ว่าสินค้านั้นผลิตตามเกณฑ์มาตรฐานเวอร์ชันปัจจุบันหรือไม่ เพราะมาตรฐานมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ส่วนที่สามซึ่งสำคัญมากคือชื่อผู้รับใบอนุญาตหรือชื่อโรงงานผู้ผลิต ที่ต้องระบุไว้อย่างชัดเจนใกล้กับเครื่องหมาย เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้หากเกิดปัญหาจากการใช้งาน การแสดงข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อบังคับที่ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากพบสินค้าที่มีแต่โลโก้แต่ไม่มีเลขทะเบียนกำกับ หรือไม่มีชื่อผู้ผลิต ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเครื่องหมายปลอมหรือสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง
ประเภทของเครื่องหมาย มอก.
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดคือการคิดว่าสินค้าทุกชนิดต้องมี มอก. หรือสินค้าที่มี มอก. ทั้งหมดมีความสำคัญเท่ากัน ในความเป็นจริง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแบ่งเครื่องหมายออกเป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่ของข้อกฎหมายและการบังคับใช้
เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป (สีน้ำเงิน)
เครื่องหมาย มอก. แบบนี้เป็นเครื่องหมายรับรองสำหรับสินค้าที่ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำตามมาตรฐาน ผู้ผลิตสมัครใจยื่นขอการรับรองเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าของตนเอง และใช้เป็นจุดขายทางการตลาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ลักษณะของเครื่องหมายนี้มักจะใช้สีน้ำเงิน (หรือสีอื่นตามการออกแบบบรรจุภัณฑ์ แต่ในทางราชการมักแทนด้วยสีน้ำเงิน)
สินค้าในกลุ่มนี้มักเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่หากชำรุดเสียหายอาจไม่ส่งผลกระทบวงกว้างถึงแก่ชีวิตทันที เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา กระเบื้องปูพื้น สุขภัณฑ์ หรือวัสดุก่อสร้างบางประเภท การที่สินค้าเหล่านี้มี เครื่องหมาย มอก. กำกับอยู่ แสดงว่าผู้ผลิตใส่ใจในคุณภาพมากกว่าคู่แข่งที่ไม่มีเครื่องหมาย แต่หากไม่มีก็ยังสามารถวางจำหน่ายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เพียงแต่ผู้บริโภคต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อเอง
เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ (สีแดง)
นี่คือเครื่องหมายที่ผู้บริโภคต้องให้ความสำคัญสูงสุด เครื่องหมายมาตรฐานบังคับใช้กับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง กฎหมายระบุว่าสินค้านั้นต้องผลิต นำเข้า และจำหน่ายตามมาตรฐานที่กำหนดเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำและปรับ ลักษณะของเครื่องหมายนี้คือตราสมอเรือที่อยู่ในวงกลม
สินค้ากลุ่มนี้คือกลุ่มที่หากไม่ได้มาตรฐานจะเกิดอันตรายร้ายแรง เช่น สายไฟฟ้า ปลั๊กไฟ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องมือช่างที่ใช่ไฟฟ้า, เครื่องมือช่างไร้สาย, และแบตเตอรี่เครื่องมือช่างไร้สาย เป็นต้น
หากคุณพบสินค้าเหล่านี้วางขายโดยไม่มี เครื่องหมาย มอก. แบบบังคับ หรือเป็นสินค้าลักลอบนำเข้าที่ไม่มีการรับรอง ให้หลีกเลี่ยงทันที เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังนำระเบิดเวลาเข้าบ้าน
วิธีตรวจสอบ มอก. ว่ามีอยู่จริง
วิธีตรวจสอบ มอก. สามารถทำได้โดยเริ่มจากไปที่เว็บไซต์สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) เว็บไซต์ TISI.GO.TH แล้วหา “ระบบสืบค้นข้อมูลใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม”
หรือกดที่ลิงก์นี้เพื่อไปที่ ระบบสืบค้นข้อมูลใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
หน้าเว็บไซต์ ระบบสืบค้นข้อมูลใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ของ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.)
เลือกวิธีที่ต้องการใช้ในการค้นหา มอก. แล้วใส่ข้อมูลตามวิธีที่คุณเลือกใช้
- ค้นหาจากเลขที่ ใบอนุญาต
- ค้นหาจากเลขที่ มอก.
- ค้นหาจากชื่อ มอก.
- ค้นหา มอก. จากชื่อผู้ประกอบการ อย่างเช่น ชื่อบริษัท
- ค้นหา มอก. จากแบบขนาด
หมายเหตุ: ข้อมูลจำเป็นต้องใส่ให้ตรง เช่น ชื่อบริษัทต้องเว้นวรรคถูกต้อง ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน
จากนั้นข้อมูลจะแสดงขึ้นมา
หากมี มอก. อยู่จริง หรือบริษัทนั้นมีใบอนุญาต มอก. อยู่จริง คุณจะสามารถกด “ดูรายละเอียด” เพื่อเปรียบเทียบ “ข้อมูลใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” ได้ตามต้องการ
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องมือช่าง Power Tools ที่มีมาตรฐาน มอก. ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เราขอแนะนำเครื่องมือช่าง SUMO Power Tools เครื่องมือช่างคุณภาพระดับอุตสาหกรรม ในราคาที่เป็นมิตร ทั้งสว่านไฟฟ้าทั้งแบบมีสายและสว่านไร้สาย, เครื่องเจียร, บล็อกลม, เครื่องตัดไฟเบอร์, เครื่องเป่าลม, บล็อกไฟฟ้า, เครื่องปั่นไฟ, ปั๊มน้ำ ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องช่างอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ SUMO กว่า 10,000 รายการที่เว็บไซต์ SGB.CO.TH









