ถ้าเปรียบช่างเป็นพ่อครัว “สว่าน” ก็คือมีดทำครัวเล่มเก่งที่ขาดไม่ได้ แต่ปัญหาที่หลายคนเจอ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านมือใหม่หรือแม้แต่ช่างที่เพิ่งเริ่มรับงาน คือความสับสนเกี่ยวกับ ประเภทของสว่าน เพราะในตลาดมีประเภทสว่านให้เลือกเยอะมากจนตาลาย บางคนซื้อสว่านผิดประเภท เอาสว่านธรรมดาไปเจาะปูนจนดอกไหม้ หรือเอาสว่านกระแทกตัวใหญ่ไปขันน็อตประกอบคอมพิวเตอร์จนเกลียวหวาน
บทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับจักรวาลของสว่านแบบเจาะลึก อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่าสว่านในแต่ละ ประเภทของสว่าน แต่ละแบบ ใช้ทำอะไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อจากประสบการณ์จริงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อให้คุณเสียเงินครั้งเดียวแล้วได้เครื่องมือที่ใช่สำหรับคุณที่สุดครับ

ก่อนจะไปดู ประเภทของสว่าน ว่ามีกี่แบบ เรามาปรับจูนความเข้าใจกันก่อนว่า “สว่าน” (Drill) คืออะไรกันแน่?
สว่าน คืออะไร?
สว่าน คือ เครื่องมือกลที่ใช้สำหรับ “เจาะรู” หรือ “ตัดเนื้อวัสดุ” โดยอาศัยหลักการทำงานของ แรงบิดจากการหมุน (Rotational Force) ส่งผ่านจากมอเตอร์ไปยังหัวจับดอก (Chuck) เพื่อหมุนดอกสว่านที่มีคมตัด ให้กัดเซาะเนื้อวัสดุออกมาเป็นเศษเล็ก ๆ จนเกิดเป็นรูตามขนาดที่ต้องการ
แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน นิยามของ “สว่าน” ก็เปลี่ยน ถ้าเป็นเมื่อก่อน สว่าน มีหน้าที่แค่เจาะรูอย่างเดียวจบ แต่ในโลกยุคปัจจุบันเทคโนโลยีมอเตอร์และการออกแบบเกียร์พัฒนาไปไกลมาก ทำให้สว่านกลายเป็น Multi-purpose Tool หรือเครื่องมืออเนกประสงค์เบอร์ 1 ของงานช่าง
จากแค่เจาะพัฒนาไปสู่การ ขันสกรู (Driving) ด้วยระบบคลัตช์ตัดแรง จากแค่หมุนพัฒนาไปสู่การ กระแทก (Hammering) เพื่อเจาะคอนกรีตแข็ง หรือจากการเจาะรูเล็ก ๆ พัฒนาไปสู่การผสมปูน ขัดสีรถ หรือแม้แต่เจาะพื้นดิน
ความหลากหลายในการใช้งานนี่เอง คือเหตุผลว่าทำไมสว่านถึงมีหน้าตาและชื่อเรียกที่แตกต่างกันเป็นสิบแบบ เพราะงานแต่ละอย่างต้องการ “รอบหมุน” (Speed) และ “แรงบิด” (Torque) ที่ไม่เท่ากัน การเลือกใช้สว่านให้ถูกกับงานจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้งานออกมาดีและเครื่องมือไม่พังคามือครับ
12 ประเภทของสว่าน ที่มีให้เราเลือกใช้ในปัจจุบัน
สว่านไฟฟ้าธรรมดา (Rotary Drill)
สว่านไฟฟ้า คือ ต้นกำเนิดของสว่านทั้งหมด หลักการทำงานเรียบง่ายคือ “หมุนอย่างเดียว” ไม่มีระบบกระแทกใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจุดเด่นของสว่านประเภทนี้คือความนิ่งและความแม่นยำสูง และรอบหมุนที่มีความเสถียรมาก
สว่านไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับงานเจาะที่ต้องการความละเอียด เช่น เจาะไม้ เจาะพลาสติก เจาะแผ่นโลหะบางๆ หรืออลูมิเนียม
อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในการใช้สว่านไฟฟ้าประเภทนี้คือห้ามนำไปเจาะผนังปูนหรือคอนกรีตเด็ดขาด เพราะไม่มีแรงกระแทก มันจึงทำให้ดอกสว่านไหม้และหัวจับดอกเสียศูนย์ได้ทันที
สว่านไฟฟ้า แบบธรรมดา รุ่น 602 SUMO
สว่านกระแทก (Impact Drill)
สว่านกระแทก คือ สว่านที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายสว่านธรรมดา แต่จะมีสวิตช์ปรับโหมดได้ 2 ระบบ คือ “โหมดเจาะธรรมดา” และ “โหมดเจาะกระแทก” กลไกภายในใช้เฟืองขบกันเพื่อให้แกนสว่านขยับเข้า-ออกถี่ๆ เกิดเป็นแรงกระแทกเบาๆ ช่วยให้หัวดอกสว่านกินเนื้อปูนได้
เหมาะสำหรับ งาน DIY ทั่วไป เจาะผนังอิฐมอญ อิฐบล็อก หรือปูนฉาบเพื่อแขวนรูป แขวนชั้นวางของ และยังสามารถปรับกลับมาเจาะไม้หรือเหล็กได้ดีเยี่ยม
ทั้งนี้ แม้มันจะชื่อว่า สว่านกระแทก แต่มันไม่เหมาะกับงานหนักอย่างการเจาะเสาคอนกรีตหรือเพดานแข็งๆ เพราะแรงกระแทกจากเฟืองนั้นน้อย คุณจะต้องออกแรงกดเยอะจนเหนื่อย
สว่านกระแทก ไร้สาย ไร้แปรงถ่าน รุ่น CD009 SUMO
สว่านไขควงกระแทก (Impact Driver)
สว่านไขควงกระแทก เป็นสว่านที่มีหัวจับดอกเป็นแบบหกเหลี่ยม (Hex Chuck) ออกแบบมาเพื่อ “สร้างแรงบิดมหาศาลในทิศทางการหมุน” ไม่ได้เน้นเจาะรู แต่เน้นอัดเกลียวปล่อยหรือน็อต
สว่านไขควงกระแทกจะเหมาะกับงานขันสกรูตัวยาว ยิงเมทัลชีททำหลังคา ประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรือยิงไม้เนื้อแข็ง แรงบิดที่สูงมากจะช่วยตอกหัวน็อตให้จมมิดเนื้อไม้ได้โดยที่ข้อมือคุณไม่สะบัดและหัวน็อตไม่รูด
ในทางกลับกัน มันจึงไม่เหมาะกับการเจาะรูผนังเนียน ๆ เพราะแรงบิดที่มากเกินไปอาจทำให้ชิ้นงานแตกได้
สว่านโรตารี่ (Rotary Hammer)
สว่านโรตารี่ คือ ราชาแห่งการเจาะปูนที่แท้จริง การทำงานของสว่านโรตารี่จะต่างจากสว่านกระแทกตรงที่สว่านโรตารี่จะใช้ระบบ “ลูกสูบอัดอากาศ” ในการกระแทก ทำให้มีแรงกระแทกสูงกว่าสว่านกระแทกแบบเฟืองหลายเท่าตัว เวลาใช้งานแทบไม่ต้องออกแรงกด สว่านจะพุ่งเข้าเนื้อปูนเหมือนเจาะเนย ส่วนใหญ่จะใช้ดอกสว่านก้านเสียบแบบพิเศษ (SDS Plus/Max)
สว่านโรตารี่เหมาะสำหรับ เจาะคอนกรีตเสริมเหล็ก คาน เสา พื้นบ้าน และงานสกัดทำลายกระเบื้องห้องน้ำ (ในรุ่นที่มี 3 ระบบนี้ขึ้นไป คือ เจาะ/กระแทก/สกัด)
ดังนั้นแล้ว ถ้าหากคุณต้องเจาะรูผนังบ้านเกิน 20 รู หรือต้องเจาะรูใหญ่กว่า 10 มม. การลงทุนซื้อโรตารี่เป็นสิ่งที่อาจจะคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณสุดครับ
สว่านโรตารี่ ไร้สาย รุ่น CH777-7 SUMO
สว่านยิงฝ้า (Drywall Screw Gun)
สว่านยิงฝ้า เป็นสว่านเฉพาะทางสำหรับช่างฝ้าเพดาน มีหัวจับที่ปรับระดับความลึกได้แบบ Depth Stop ทำให้เมื่อยิงสกรูจนจมถึงระดับที่ตั้งไว้ คลัตช์จะตัดการหมุนทันที
โดยสว่านยิงฝ้าจะใช้ในการยิงแผ่นยิปซั่มบอร์ดเข้ากับโครงคร่าว ช่วยให้หัวสกรูจมพอดีกับผิวกระดาษ ไม่กินลึกจนกระดาษขาดและไม่นูนออกมา ทำให้งานโป๊วสีเก็บงานง่ายขึ้นมาก
สว่านคอริ่ง (Core Drill)
สว่านคอริ่ง คือ สว่านสำหรับใช้กัดคอนกรีตให้เป็นรูวงกลมสวยงามโดยไม่มีแรงกระแทกสั่นสะเทือน ด้วยดอกเจาะหัวเพชรทรงกระบอกกลวง
การใช้งานสว่านคอริ่งจะใช้ในงานที่ต้องการเจาะรูขนาดใหญ่อย่างเรียบเนียนโดยไม่ทำให้ผนังร้าว และไม่ต้องตามเก็บเศษปูนที่กระเด็นออกมาจากการเจาะ ซึ่งเรามักจะพบสว่านคอริ่งได้ในงานเจาะผนังเพื่อเดินท่อแอร์ ท่อระบายอากาศเครื่องดูดควัน หรือเจาะพื้นเดินท่อประปา
เครื่องเจาะคอริ่ง 14 นิ้ว รุ่น DC350-2 SUMO
สว่านแท่น (Drill Press / Bench Drill)
สว่านแท่น คือ สว่านที่ลักษณะเป็นเครื่องตั้งอยู่กับที่ตามชื่อ มีฐานวางชิ้นงาน และมีคันโยกสำหรับกดหัวสว่านลงมาในแนวดิ่ง
สว่านแท่นจะใช้ในงานที่ต้องการรูเจาะที่ตั้งฉาก 90 องศาเป๊ะ ๆ หรืองานที่ต้องเจาะรูซ้ำ ๆ ในตำแหน่งเดิมจำนวนมาก การใช้สว่านแท่นจะช่วยลดความเมื่อยล้าและความผิดพลาดจากมือสั่นได้ดีที่สุด
สว่านแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Drill Press)
สว่านแม่เหล็กไฟฟ้า คือ เครื่องเจาะรูโลหะแบบพกพาที่มีฐานแม่เหล็กพลังสูง ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง เพื่อใช้ยึดเกาะชิ้นงานที่เป็นเหล็กให้แน่นสนิทก่อนทำการเจาะ
หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายที่สุด มันคือ สว่านแท่น (Drill Press) ที่คุณสามารถยกไปหาชิ้นงานได้ แล้วใช้แม่เหล็กที่ฐานติดกับชิ้นงาน (ที่เป็นเหล็ก) แทนที่จะต้องยกชิ้นงานหนัก ๆ มาหาเครื่องเจาะ
ด้วยคำเรียกในภาษาไทยบางคนอาจะเรียก “สว่านแม่เหล็กไฟฟ้า ว่า สว่านแท่นแม่เหล็กไฟฟ้า” ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดจนหลายคนเข้าใจว่าสว่านแม่เหล็กไฟฟ้ากับสว่านแท่น แต่จริง ๆ แล้วจุดแตกต่างนั้นชัดเจนมาก สว่านแท่นคือ “การที่สว่านตั้งอยู่กับที่ คุณต้องเอาของที่ต้องการเจาะมาหาเครื่อง” ส่วนสว่านแม่เหล็กหรือสว่านแท่นแม่เหล็กคือ “การเอาเครื่องสว่านแม่เหล็กไฟฟ้าไปดูดติดกับเหล็กที่ต้องการเจาะ”
สว่านแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น DX-35 SUMO
สว่านเจาะราง (Rail Drill)
สว่านเจาะราง คือ สว่านที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายสว่านแม่เหล็ก แต่ฐานไม่ใช่แม่เหล็ก เพราะรางรถไฟมีหน้าตัดโค้งเว้าและเป็นเหล็กแข็งพิเศษ สว่านชนิดนี้จึงใช้ระบบ “ขาล็อค” (Rail Clamp) หนีบเข้ากับเอวของรางรถไฟแทน เพื่อความปลอดภัยและความแม่นยำ มักใช้เครื่องยนต์หรือมอเตอร์กำลังสูง
อย่างไรก็ตาม สว่านเจาะราง เป็นเครื่องมือที่สามารถพบเห็นได้ยาก เนื่องจากสว่านเจาะรางนั้นเป็นเครื่องมือเฉพาะทางที่ถูกใช้ในงานวางระบบรางรถไฟโดยเฉพาะและไม่ได้นำไปประยุกต์ใช้ในงานลักษณะอื่นมากนัก
สว่านเจาะราง รุ่น R-35 SUMO
สว่านผสมปูน (Mixer Drill)
สว่านผสมปูน เป็นสว่านที่หน้าตาอาจดูแปลกตา มีด้ามจับด้านหลังคล้ายพวงมาลัยหรือหูหิ้วคู่ ออกแบบมาให้มีรอบหมุนช้าแต่แรงบิดสูงมาก (High Torque, Low Speed) เพื่อสู้กับความหนืดของวัสดุ เพื่อใช้ใส่แกนใบกวนเพื่อผสมสี ปูนกาว ปูนซีเมนต์ หรือสารเคมีที่มีความหนืด
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้สว่านผสมปูน เนื่องจากช่างหลายคนชอบเอาสว่านโรตารี่ไปกวนปูน ซึ่งจริง ๆ ทำได้แต่อันตราย เพราะถ้าหากปูนหนืดมาก มอเตอร์สว่านทั่วไปอาจไหม้ได้ ในขณะที่สว่านผสมปูนออกแบบการระบายความร้อนมาเพื่อรับภาระนี้โดยเฉพาะ
สว่านเข้ามุม (Right Angle Drill)
สว่านเข้ามุม คือ สว่านประเภทที่หัวสว่านจะทำมุม 90 องศากับตัวเครื่อง ทำให้มีความยาวช่วงหัวสั้นมาก เหมาะสำหรับการทำงานในที่แคบที่สว่านรูปทรงปืนปกติแหย่เข้าไปไม่ได้ เช่น เจาะรูเดินสายไฟระหว่างช่องตู้ ซอกเครื่องยนต์ หรือใต้ซิงค์ล้างจาน
สว่านเจาะดิน (Earth Auger)
สว่านเจาะดิน โดยส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เพื่อเปลี่ยนจากเจาะวัสดุแข็งมาเป็นพื้นดิน โดยใช้ดอกสว่านเกลียวขนาดใหญ่
เป็นสว่านเฉพาะทางที่นิยมใช้ในงานเกษตรกรรม การขุดหลุมฝังเสารั้ว หรือหลุมปลูกต้นไม้ ซึ่งช่วยทุ่นแรงการใช้จอบเสียมได้มหาศาล
สว่านไร้สาย
ในบรรดา ประเภทสว่าน ทั้งหมดที่กล่าวมา (ยกเว้นพวกเครื่องใหญ่ยักษ์อย่างสว่านแท่นหรือเจาะราง) ปัจจุบันสว่านเหล่านั้นมีแบบเวอร์ชัน สว่านไร้สาย ให้เลือกใช้งานได้เกือบทั้งหมดทุกประเภท ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) และมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน (Brushless Motor) ที่ก้าวหน้าไปไกล ทำให้สว่านไร้สายยุคนี้มีกำลังแรงเทียบเท่าหรือแรงกว่าสว่านมีสายในบางรุ่น ทำให้สามารถทดแทนสว่านมีสายได้สำหรับงานทั่วไปส่วนใหญ่
สว่านไร้สาย เป็นสว่านที่มีข้อดีที่ชัดเจนคือความคล่องตัว ไม่ต้องลากสายไฟ ปีนขึ้นที่สูงสะดวก และปลอดภัยจากไฟรั่ว แลกกับข้อจำกัดที่สำคัญของสว่านไร้สายคือ “ราคาสูงกว่า” และ “น้ำหนักเยอะกว่า” (เพราะต้องแบกแบตเตอรี่) รวมถึงต้องคอยบริหารจัดการการชาร์จไฟให้ดีหากต้องใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
สว่านไร้สาย 3 หุน รุ่น CD007 SUMO
วิธีเลือกซื้อสว่าน ดูจากอะไร? ขั้นตอนการตัดสินใจแบบมือโปร
เมื่อคุณรู้จักสว่านแต่ละประเภทแล้ว จะเลือกซื้ออย่างไรไม่ให้พลาด? ผมแนะนำให้ใช้หลักการคิด 3 ขั้นตอนนี้ครับ
1. ถามตัวเองว่า “เจาะอะไรเป็นหลัก?”
ลำดับแรกคือการตอบคำถามว่า “เจาะอะไรเป็นหลัก” เนื่องจากสว่านแต่ละประเภทมีความสามารถในการเจาะที่แตกต่างกัน
- ถ้าเจาะไม้/เหล็ก/พลาสติก ในระดับ 90% เลือก “สว่านไฟฟ้าธรรมดา” หรือ “สว่านไขควงกระแทก” ก็เพียงพอ ซึ่งได้ประโยชน์ความแม่นยำและน้ำหนักที่เบา
- ถ้าเจาะปูนผนังบ้านบ้างนาน ๆ ที เลือก “สว่านกระแทก” เป็นตัวจบที่คุ้มค่าที่สุด
- ถ้าเจาะคอนกรีตแข็ง ๆ หรือรีโนเวทบ้านทั้งหลัง ต้องไป “สว่านโรตารี่” เท่านั้น อย่าฝืนใช้สว่านกระแทกเพราะงานจะไม่เดิน
2. “มีสาย” หรือ “ไร้สาย”?
- เลือกแบบมีสาย (Corded) เมื่อคุณทำงานใน Workshop เป็นหลัก งานเจาะเหล็กหนาๆ ที่ต้องแช่นานๆ หรือต้องการประหยัดงบประมาณ สว่านมีสายราคาถูกกว่าและแรงดีไม่มีตก
- เลือกแบบไร้สาย (Cordless) เมื่อคุณต้องทำงานหลายจุด เดินไปเดินมา ปีนที่สูง หรือรำคาญสายไฟที่เกะกะ งานประกอบเฟอร์นิเจอร์หรืองานซ่อมแซมจุดเล็กน้อย ไร้สายตอบโจทย์กว่ามาก
3. ความถี่ในการใช้งาน
- ใช้งานปีละ 2-3 ครั้ง ซื้อแบรนด์รุ่นประหยัดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นท็อป
- ใช้งานทุกสัปดาห์/รับงาน ลงทุนกับรุ่น Professional สำหรับงานหนักไปเลยครับ ความทนทานของมอเตอร์และการหาอะไหล่ในระยะยาวต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
จะเห็นว่าการรู้จัก ประเภทของสว่าน และการเลือกใช้ให้ถูกงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานของคุณออกมาสวยเนียนระดับมืออาชีพ แต่ยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋า ไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องมือซ้ำซ้อน และที่สำคัญคือความปลอดภัยของตัวคุณเอง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก “คู่หูงานช่าง” ได้ถูกใจที่สุดครับ และถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาสว่านสำหรับงานช่างของคุณ Siam Global Group จำหน่ายสว่านทุกชนิด ทั้งสว่านไฟฟ้าและสว่านไร้สาย ตลอดจนสว่านสำหรับเฉพาะทางอย่างสว่านแท่น และสว่านแม่เหล็กไฟฟ้า




















